วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ตำนานเลื่องชื่อ แก่งสะพือ จังหวัดอุบลราชธานี

ตำนานเลื่องชื่อ แก่งสะพือ จังหวัดอุบลราชธานี

 
แก่งสะพือ นับเป็นแก่งที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี เป็นแก่งที่อยู่ในแม่น้ำมูลที่ เขตเทศบาล ตำบลพิบูลมังสาหาร อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ห่างจากตัวเมืองอุบลราชธานีที่ประมาณ 45 กิโลเมตร ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 217 ...
แก่งสะพือนั้นมาจากคำว่า "ซำพือ" (ภาษาส่วย หรือ กูย) ที่แปลว่า งูใหญ่ ตามลักษณะของแก่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาล ตำบลพิบูลมังสาหาร อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี แก่งสะพือเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดตามสภาพภูมิศาสตร์ซึ่งมีชื่อเสียงมานาน คู่ไปกับจังหวัดอุบลราชธานี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ได้เคยเสด็จประพาสแก่งสะพือมาแล้ว ความงดงามของแก่งได้เป็นแรงจูงใจให้ผู้ประพันธ์เพลงจินตนาการตามธรรมชาติให้กับนักร้องผู้มีชื่อเสียงอย่าง ทูล ทองใจ ขับร้องออกมา ปัจจุบันแก่งสะพือได้รับผลกระทบมาจากเขื่อนปากมูลจึงทำให้น้ำท่วมแก่ง จึงได้เกิดข้อตกลงร่วมกันว่า เมื่อถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้นให้ทางเขื่อนปากมูลได้ปล่อยน้ำออกเพื่อลดระดับน้ำลงจนสามารถเยี่ยมชมเกาะแก่งได้ ชาวอุบลราชธานีจึงนิยมไปเที่ยวชมแก่งสะพือกันอย่างคึกคักในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี
ตำนานสะพือ

ตำนานของแก่งสะพือเล่ากันว่าเป็นเรื่องราวของเทวรูปที่สร้างจากแก่งหินขนาดใหญ่ที่อยู่ในหลืบถ้ำกลางแม่น้ำมูลบริเวณแก่งสะพือ เมื่อฤดูแล้งน้ำจะแห้งขอดจนมองเห็นพระพือซ่อนอยู่ในถ้ำใต้แก่งหินและเชื่อกันว่าพระพือเป็นเทวรูปศักดิ์สิทธิ์ ผู้ใดที่บนสิ่งใดแล้วย่อมได้ตามที่ประสงค์ไว้ แต่หากผู้ใดบนแล้วไม่ทำตามคำขอแล้วจะมีอันเป็นไปต่างๆนาๆ หนุ่มๆสาวๆชาวอำเภอพิบูลมังสาหารได้ไปสาบานรักต่อหน้าพระพือ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เมื่อไปเล่นน้ำที่แก่งสะพือ แล้วจะเลยไปลงใต้น้ำสาบานรักกัน ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2500 นายอำเภอพิบูลมังสาหารพร้อมด้วยพระสงฆ์ และประชาชนต่างร่วมใจกันอัญเชิญพระพือไปประดิษฐาน ณ วัดสระแก้ว ริมฝั่งแม่น้ำมูลที่อยู่ใกล้แก่งสะพือ เป็นบริเวณที่เคยมีซากปรักหักพังของสิ่งปลูกสร้างในสมัยอาณาจักรเจนละ ซึ่งบางส่วนก็ได้ถูกเคลื่อนย้ายไปตามที่ต่างๆ ในสมัยต่อมา เช่น วัดสุปัฏนารามและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานี มีเหลือเพียงน้อยนิดเนื่องจากได้ถูกทับถมไปภายในการก่อสร้างสมัยใหม่
 
ติดตามเรื่องเล่าตำนานของสถานที่ต่างๆได้อีกที่  http://travel.sanook.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น