วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

สามพันโบก ประติมากรรมธรรชาติ อุบลราชธานี

 สามพันโบก ประติมากรรมธรรชาติ อุบลราชธานี

 แก่งสามพันโบก จ.อุบลราชธานีนับว่าเป้นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่และเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยเพราะความสวยงามของวิวทิวทัศน์นั้นเอง แก่งสามพันโบกได้ปรากฎสู่สายตานักท่องเที่ยวเมื่อโฆษณาของ ท.ท.ท. ชุดพี่เบิร์ด เริ่มออกอากาศฉายภาพสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งเป็นทำมาเป้นฉากจบของโฆษณาชุดนี้จึงกลายเป็นคำถามที่ว่า นั่นคือที่ไหนกัน เมืองไทยมีที่แห่งนี้ด้วยหรอ นับแต่นั้นเป็นต้นมามาแก่งสามพันโบกจึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่รู้จักกันไปทั่วประเทศและได้รับความนิยมสูงมากใน
ประเทศไทยจนเรียกได้ว่าของดีทีเด็ดแห่งอุบลราชธานีเลยก็ว่าได้  
แก่งสามพันโบก จ.อุบลราชธานี เป็นแก่งหินที่อยู่ใต้ลำน้ำโขงเมื่ออยู่ในช่วงฤดูน้ำหลากซึ่งอันเกิดจากแรงน้ำวนกัดเซาะ จนกลายเป็นแอ่งที่มีมากกว่า 3,000 แอ่ง หรือ 3,000 โบก คำว่าโบกหรือแอ่งก็หมายถึง บ่อน้ำลึกในแก่งหินใต้ ลำน้ำโขง และคำว่า “โบก” นั้นเป็นภาษาของลาวที่มักนิยมเรียกกันและจะปรากฏให้เห็นในช่วงฤดูแล้งที่น้ำเริ่มเหือดแห้งขอด แก่งหินดังกล่าวก็จะโผล่พ้นน้ำออกกลายเป็น ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติสุดอลังการกลางลำน้ำโขงอย่างแท้จริงสุดๆด้วยความสวยงาม แปลกตา มหัศจรรย์จนชาวบ้านเรียกว่า แกรนด์แคนยอนน้ำโขงแห่งจังหวัดอุบลราชธานี
ทางเข้าของแกรนแคนยอนแม่น้ำโขงแห่งนี้มีหินสวยงามลักษณะคล้ายกับหัวสุนัข ซึ่งมีตำนานเล่าขานกันต่างๆนาๆว่าบ้างก็ว่าแต่ก่อนมีเจ้าเมืองเป็นผู้เรืองอำนาจได้ประทับใจความงามของสามพันโบกแห่งนี้จึงได้ส่งเสนามาศึกษาเพิ่มเติม แต่เมื่อมาแล้วพบว่าขุมทรัพย์เป็นทองคำ จึงให้สุนัขเฝ้าทางเข้าจนกว่าเจ้าเมืองผู้นี้จะออกมา เมื่อเจ้าเมืองได้เห็นสมบัติก็เกิดความโลภอย่างมากจนกลัวเสนาจะได้ส่วนแบ่งจึงได้ออกไปทางอื่นแทน แต่สุนัขผู้ภักดีก็ได้เฝ้ารอเจ้าเมืองอยู่ตรงนั้นจนได้ตายในที่สุด แต่บางตำนานก็ว่าลูกพญานาคในลำน้ำโขงได้เป็นผู้ขุดมันเพื่อให้เกิดลำน้ำอีกสายหนึ่งขึ้นและได้มอบหมายให้สุนัขเป็นผู้เฝ้าทางเข้าระหว่างการขุดจนกระทั่งสุนัขได้ตายลงกลายเป็นหินรูปสุนัขไหในที่สุด

แก่งสามพันโบกแห่งนี้รอท่านมาเที่ยวอยู่นะ แวะมาเที่ยวได้เลย รับรองว่าท่านต้องประทับใจ ติดอกติดใจกับความสวยงามจนต้องบอกต่อๆกัน เพราะทิวทัศน์มีให้ชมมากมาย พร้อมให้ท่านมาชมความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี
 
ติดตามประวัติที่เที่ยวอีกมาที่ http://travel.sanook.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น